วิเคราะห์บอล กระชับมิตร : อังกฤษ -vs- ออสเตรีย
วิเคราะห์บอล กระชับมิตร : อังกฤษ -vs- ออสเตรีย
วันแข่ง : วันพุธ ที่ 2 มิถุนายน 2564
เวลา : 02.00 น.
ราคาบอล : อังกฤษ ต่อ 1
สนาม : ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
อังกฤษ
01/04/21 ชนะ โปแลนด์ 2-1 (เหย้า) คัดบอลโลก 2022
28/03/21 ชนะ แอลเบเนีย 2-0 (เยือน) คัดบอลโลก 2022
26/03/21 ชนะ ซาน มาริโน่ 5-0 (เหย้า) คัดบอลโลก 2022
19/11/20 ชนะ ไอซ์แลนด์ 4-0 (เหย้า) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
16/11/20 แพ้ เบลเยียม 0-2 (เยือน) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
ออสเตรีย
01/04/21 แพ้ เดนมาร์ก 0-4 (เหย้า) คัดบอลโลก 2022
29/03/21 ชนะ หมู่เกาะแฟโร 3-1 (เหย้า) คัดบอลโลก 2022
26/03/21 เสมอ สกอตแลนด์ 2-2 (เยือน) คัดบอลโลก 2022
19/11/20 เสมอ นอร์เวย์ 1-1 (เหย้า) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
16/11/20 ชนะ ไอร์แลนด์เหนือ 2-1 (เหย้า) ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
17/11/07 ออสเตรีย แพ้ อังกฤษ 0-1 / กระชับมิตร
08/10/05 อังกฤษ ชนะ ออสเตรีย 1-0 / คัดบอลโลก 2006
05/09/04 ออสเตรีย เสมอ อังกฤษ 2-2 / คัดบอลโลก 2006
วิเคราะห์ก่อนเกม
อังกฤษ
อังกฤษ ของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต เลือกตัวติดทัพชุดนี้ยังคงมีชื่อ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (32 นัด/3 ประตู) ปราการหลังตัวเก่งที่แม้จะเจ็บอยู่ก็จริง แต่ยังหวังลึกๆ ว่าจะหายทัน และกลับมาช่วยทีมได้ทันเวลาตอนทัวร์นาเม้นต์ยูโร 2020 เริ่มต้นขึ้น ส่วนพวก นิค โป๊ป (7 นัด), อีริก ไดเออร์ (45 นัด/3 ประตู), ไมเคิ่ล คีน (12 นัด/1 ประตู) และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (1 นัด) หลุดโผเพราะมีอาการบาดเจ็บรบกวนและบางรายก็ไม่ได้ถูกเรียกตัวใช้งาน ขณะเดียวกันตัวหลักอย่าง แฮร์รี่ เคน (53 นัด/34 ประตู), ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (61 นัด/14 ประตู), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (58 นัด), เจสซี่ ลินการ์ด (27 นัด/4 ประตู), ฟิล โฟเด้น (6 นัด/2 ประตู) และ จอห์น สโตนส์ (42 นัด/2 ประตู) ฟิตสมบูรณ์เตรียมลงบู๊ทั้งหมด
อังกฤษ (4-3-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - คีแรน ทริปเปียร์, คอเนอร์ โคอาดี้, ไทโรน มิ้งส์, ลุค ชอว์ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ดีแคลน ไรซ์, จู๊ด เบลลิ่งแฮม - เจดอน ซานโช่, แฮร์รี่ เคน, แจ็ค กรีลิช
ออสเตรีย
ออสเตรีย ของกุนซือ ฟรังโก้ โฟด้า จะไร้เงา มาร์โก อาร์เนาโตวิช (87 นัด/26 ประตู) อดีตแข้งเวสต์แฮมที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน เช่นเดียวกับ สเตฟาน อิลซังเกอร์ (48 นัด) กลางรับฝีเท้าดีซึ่งป่วยอยู่ ทั้งนี้ต้องรอลุ้นอาการและความฟิตของทั้งคู่ ว่าจะกลับมาทันทัวร์นาเม้นต์เริ่มได้หรือไม่ อย่างไรก็ดีในรายของ จูเลี่ยน บอมการ์ตลิงเกอร์ (82 นัด/1 ประตู) ห้องเครื่องกัปตันทีมสลัดเดี้ยงคืนซ้อมพร้อมประจำการได้อีกครั้ง คาดว่า โฟด้า เตรียมวางหมากในระบบ 4-
2-3-1 โดยมี อาเดรียน เกอร์บิช (9 นัด/4 ประตู) หัวหอกฟอร์มแรงจากลอริยองต์ ยืนหน้าล่าตาข่ายและใช้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (48 นัด/8 ประตู) สวมบทเพลย์เมคเกอร์คอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
ออสเตรีย (4-2-3-1) : ไฮนซ์ ลินด์เนอร์ - สเตฟาน ไลเนอร์, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์, อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช, อันเดรียส อุลเมอร์ - ซาเวอร์ ชลาเกอร์, ฟลอเรียน กริลลิตช์ - จูเลี่ยน บอมการ์ตลิงเกอร์, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, ดาวิด อลาบา - อาเดรียน เกอร์บิช
ทรรศนะ
บอกเลยว่าคงจะหาใครมาหยุดความร้อนแรงของทัพ "สิงโตคำราม" ลำบากในช่วงนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นขุมกำลังตัวเก๋าหรือสายเลือดใหม่ที่ขึ้นมาทดแทน ล้วนแต่ทรงประสิทธิภาพทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเกมรุกหรือแนวรับ ซึ่งถือว่าทำผลงานได้ดีสุดๆ ไปเลย ดังนั้นฟอร์ม 4 เกมท้ายทุกรายการจึงสามารถกำชัยรวดและซัดไม่เลี้ยงร่วมๆ 13 ประตู ยิ่งมาเจอกับ ออสเตรีย ที่เพิ่งจะเสียความมั่นใจหลังพ่าย เดนมาร์ก เละเทะ 0-4 นั่นทำให้ 4 เกมท้ายทุกรายการชนะแค่ หมู่เกาะแฟโร 3-1 ครั้งเดียวเท่านั้น (เสมอ 2, แพ้ 1) และโดนทะลวงแนวรับนับไม่ถ้วนกว่า 8 เม็ด ดูทรงแล้วไม่แคล้วโดนไล่ต้อนปิดจ๊อบตามระเบียบ แนะนำอยู่ต่อ ฟันธง! จัดไปครับ อังกฤษ
ผลการแข่งกันที่คาด : อังกฤษ ชนะ 2-0
ราคาบอล : อังกฤษ ต่อ 1
อัตราความมั่นใจ : 8/10